หลังจากทาง Samsung ได้ Update Galaxy Tab S จาก Android 4.4.2 ไปเป็น Android 5.0.2 ทำให้ทุกท่านที่ได้ทราบข่าว ต่างรู้สึกปลื้มปิติ มานะ ชูใจกันใหญ่(ท่านทีอายุน้อยกว่า 30- อาจจะไม่ขำ) เอ้ย..ไม่ขนาดนั้น ต่างรู้สึกดีใจกัน เพราะว่าทาง Samsung ยังไม่ทอดทิ้งชาว Galaxy Tab S แต่หลังจากที่ทุกท่านได้ Update และลองใช้งานกันแล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เ..ยจริงๆ(จงเติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง) โดยเฉพาะท่าน สว.(สูงวัย) ทั้งหลาย เพราะสิ่งที่ท่านได้ประสบเคราะห์กรรมหลังจาก Update เป็น Lollipop แล้วนั่นก็คือ..Font ตรง Toggle bar มันจะเล็กไปไหน บางคนถึงขนาดต้องเอาแว่นขยายมาส่องดูเวลาจะกดปุ่มทีหนึ่ง ชีวิตมันช่างลำบากอะไรเช่นนี้ บางท่านถึงขนาดช่วยตัวเองด้วยการเล่นท่ายากต่างๆนานา (อันนี้อย่าคิดลึกนะครับ) เพื่อปรับขนาด Font ให้ใหญ่ขึ้น เพราะว่ามันปรับขนาด Font ที่ Setting ไม่ได้ รวมไปถึง Bug อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ABD. (Auto battery drain) อันนี้พูดให้ดูเท่ห์เฉยๆ มันคืออาการซดแบตหรือแบตหมดเร็วมากกว่าตอนเป็น Kitkat นั่นเอง เมื่อเป็นดังนี้แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม Downgrade ไป Kitkat กันซิครับ “แต่ชีวิตมันต้องก้าวไปข้างหน้า คุณไม่สามารถทำให้สายน้ำไหลย้อนกลับได้” #eRobot ไม่ได้กล่าวไว้..อิอิ มัน Downgrade ได้ครับพี่ แต่มัน Boot ไม่ผ่าน ติดอยู่ตรง Logo SAMSUNG เหมือนจะย้ำเตือนให้เราจดจำแบรนด์ Samsung ให้ขึ้นใจนั่นเอง
ที่มันเป็นเช่นนี้เพราะว่า Runtime ของ Lollipop เป็น ART แต่ KitKat เป็น Dalvik มันไม่ยอม Compile App กลับให้เรานะซิ Data ของ App เก่าๆมันยังอยู่ครบมันก็เลย Boot ไม่ผ่าน วิธีแก้ก็คือต้อง Factory reset สถานเดียว หลายๆท่านอาจจะแย้งว่า ก็ถอดแบตแล้วเข้าไป wipe ที่ Recovery Mode ซิน้อง เอ่อ..พี่ครับ Galaxy Tab S เราถอดแบตเองไม่ได้ครับพี่ และโทรศัพท์รวมไปถึงแท็บเล็ตของ Samsung รุ่นหลังๆมานี่ มันไม่สามารถกด 3 ปุ่มเพื่อเข้า Recovery mode ได้ถ้ายังไม่ปิดเครื่องก่อน มันสามารถเข้า Download Mode ได้อย่างเดียว ถึงแม้คุณจะกดทุกปุ่มมันก็ไม่ปิดเครื่องให้คุณ มันก็จะพยายาม Reboot ใหม่อยู่นั่นแหละ จนกว่าแบตจะหมด..
ที่มันเป็นเช่นนี้เพราะว่า Runtime ของ Lollipop เป็น ART แต่ KitKat เป็น Dalvik มันไม่ยอม Compile App กลับให้เรานะซิ Data ของ App เก่าๆมันยังอยู่ครบมันก็เลย Boot ไม่ผ่าน วิธีแก้ก็คือต้อง Factory reset สถานเดียว หลายๆท่านอาจจะแย้งว่า ก็ถอดแบตแล้วเข้าไป wipe ที่ Recovery Mode ซิน้อง เอ่อ..พี่ครับ Galaxy Tab S เราถอดแบตเองไม่ได้ครับพี่ และโทรศัพท์รวมไปถึงแท็บเล็ตของ Samsung รุ่นหลังๆมานี่ มันไม่สามารถกด 3 ปุ่มเพื่อเข้า Recovery mode ได้ถ้ายังไม่ปิดเครื่องก่อน มันสามารถเข้า Download Mode ได้อย่างเดียว ถึงแม้คุณจะกดทุกปุ่มมันก็ไม่ปิดเครื่องให้คุณ มันก็จะพยายาม Reboot ใหม่อยู่นั่นแหละ จนกว่าแบตจะหมด..
โม้ซะตั้งนานมาเข้าเรื่องกันดีกว่า วันนี้ผมจะนำเสนอวิธีการ Downgrade ให้ทุกท่านได้ชม เชิญทำตามได้เลยครับ
หมายเหตุ บางท่านอาจจะมีวิธีการอื่นที่ง่ายกว่านี้ ก็เชิญแชร์กันมาได้เลยครับ..
คำเตือน : กรุณา Backup ข้อมูลใน Internal Sdcard ไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยก่อน เพราะว่าข้อมูลทุกอย่างจะหายเกลี้ยงๆๆๆ
Part : I
2.เมื่อ Flash จนโปรแกรมขึ้น Pass ยังไม่ต้องถอดสาย USB ออกจาก Tablet แต่ปิดโปรแกรม Odinได้เลย ตอนนี้เครื่องจะ Reboot เข้าไป wipe cache เองโดยอัตโนมัติ ซึ่งการ wipe แค่นี้ไม่สามารถทำให้ boot ผ่านได้ต้อง wipe data ด้วย
3. เมื่อเครื่องทำการ wipe cache เสร็จแล้วก็จะทำการ boot เข้าระบบโดยอัตโนมัติ แต่ว่าจะ boot ไม่ผ่าน ค้างอยู่หน้า Logo Samsung ดังภาพ
4. ขอย้ำอีกครั้งว่าอย่าพึ่งถอดสาย USB ออกจาก Tablet พอที่หน้าจอของ Tablet ขึ้น Logo Samsung ค้างอยู่ให้กดปุ่ม เพิ่มเสียง + ลดเสียง + โฮม + เปิดเครื่อง พร้อมกัน ค้างไว้สักพักจนหน้าจอดับไป และขึ้น Icon ชาร์จแบตเตอรี่ ดังภาพ ให้ถอดสาย USB ออกจาก Tablet ได้เลย สักพักหน้าจอก็จะดับ และเครื่องก็จะปิดตัวเองโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าเครื่องยังไม่ปิดตัวเองแต่พยายาม Boot ให้ท่านเริ่มต้นทำตามข้อ 4 ใหม่อีกครั้ง
5. ทีนี้ให้ท่านกด 3 ปุ่ม เพิ่มเสียง+โฮม+เปิดเครื่อง พร้อมกัน เพื่อเข้า Recovery Mode โดยเมื่อเครื่องขึ้น Samsung Galaxy Tab S ให้ปล่อยปุ่มได้เลย เครื่องก็จะเข้า Recovery Mode ดังภาพ
6. ทำการ Factory reset โดยการใช้ปุ่มลดเสียง เลื่อนแถบสีมาที่ Wipe data/factory reset แล้วกด Yes ด้วยปุ่มเปิดเครื่อง
7.เลื่อนแถบสีมาที่ wipe cache partition กดปุ่มเปิดเครื่อง 1 ครั้งเพื่อ enter
8. เลื่อนแถบสีมาที่ reboot system now เพื่อเริ่ม boot เครื่องใหม่ เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ Downgrade การ Boot เครื่องครั้งแรกอาจจะใช้เวลานาน ไม่ต้องตกใจนะครับ ขอให้โชคดีครับ..
ConversionConversion EmoticonEmoticon