รีวิว Lenovo PHAB Plus แฟบเล็ตสเปคโดนๆ ดีไซน์แจ๋วๆ

รีวิว Lenovo PHAB Plus แฟบเล็ตสเปคโดนๆ ดีไซน์แจ๋วๆ


สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เรามีรีวิวแฟบเล็ตดีๆ อย่าง Lenovo PHAB Plus ที่มีดีไซน์สวย สเปคเครื่องคุ้มค่า และราคาไม่แรงของ คุณ กะล๊อบก๊อบ จาก Pantip.com มาฝากกัน เพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจอยากซื้อ แฟบเล็ต สเปคคุ้มค่า ราคาย่อมเยาว์ ดีไซน์สวยๆ สักเครื่อง ลองมาชมรีวิวนี้เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจกันเลยค่ะ

สวัสดีครับชาว Pantip วันนี้ก็จะมาขอรีวิวแท็บเล็ต เอ๊ะไม่ใช่สิ ต้องเรียกแฟบเล็ตน่าจะถูกต้องมากกว่า เพราะมันก็คือกึ่ง Smartphone กึ่ง Tablet นั่นเอง ก็เลยออกมาเป็นลูกผสมประมาณนั้น อธิบายมาคร่าวๆ แล้วบางคนก็อาจจะรู้อยู่แล้ว เอาเป็นว่าเข้าเรื่องของเราดีกว่า

ตัวที่เราจะมารีวิวกันตอนนี้ก็คือ Lenovo PHAB Plus ครับ ซึ่งก็เป็นแฟบเล็ตตัวใหม่ล่าสุดเลยของทาง Lenovo ที่ออกมา เรียกได้ว่าการออกแบบโดนใจหลายๆคนมิใช่น้อยเลย แม้แต่ผมก็ยังติดใจกับการออกแบบเลย ที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว ก่อนอื่นมารู้จักสเปคคร่าวๆของ Lenovo PHAB Plus กันเลย


สเปค Lenovo PHAB Plus

– หน้าจอขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียดระดับ FullHD (1920 x 1080 พิกเซล)
– ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop ครอบด้วย Vibe UI
– CPU Qualcomm Snapdragon 615 Octa-Core ความเร็ว 1.5 GHz 64 Bit
– GPU Adreno405
– Ram 2GB
– หน่วยความจำภายใน 32GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 64 GB
– กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมกับแฟลชคู่ LED Dual Tone
– กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
– แบตเตอรี่ขนาด 3,500 mAh
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
– รองรับ 3G/4G LTE ทุกเครือข่าย
– ราคาเปิดตัว 11,990 บาท

ดูสเปคกันไปแล้วต้องบอกได้เลยครับ สเปคขนาดนี้เทียบกับราคาแล้วคุ้มค่ามาก หาตัวที่จะมาเทียบหรือมาวัดไม่ได้เลยกับแฟบเล็ตในช่วงราคานี้ ซึ่งก็ได้จัดสเปคมาให้อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของซีพียู ถึงจะไม่แรงมาก แต่ก็จัดได้ว่าอยู่ในระดับกลางๆ ที่พอจะใช้งานทั่วไปได้แล้ว เรื่องหน้าจอก็จัดว่าคมชัดระดับ FullHD สุดท้ายที่สำคัญเลยในยุคนี้ก็จะเป็นเรื่องของการเชื่อมต่อผ่านระบบ 4G LET ที่เครื่องที่ออกมาใหม่ๆก็ขาดไปไม่ได้เลย แถมยังรองรับทุกเครือข่าย ไม่ต้องดูคลื่นว่าจะใช้ของเครือข่ายไหนให้วุ่นวาย


มาเริ่มจากกล่องกันเลย กล่องของ Lenovo PHAB Plus ก็จะมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าตัวเครื่องเท่าไหร่ เมื่อเปิดออกมาก็จะเจอกับตัวเครื่อง Lenovo PHAB Plus นอนอยู่ โดยเครื่องที่ผมได้รีวิวนี้จะเป็นสีทองมองดูแล้วหรูมีระดับมากเลยล่ะครับ และภายใต้เครื่องก็จะเป็นในส่วนของอุปกร์ ก็เป็นอุปกร์พื้นฐานล่ะครับ

อย่าง อเดปเตอร์ ที่จ่ายไฟ 5V 1.5A และสาย USB แต่จะขาดเพียงหูฟังเพียงเท่านั้น จุดนี้ก็อาจจะต้องหาตัวอื่นมาใช้งานแทนล่ะถ้าจะเอาไว้ฟังเพลงหรือดูหนัง แล้วฟิล์มกันรอยกับเคสก็ไม่มีมาให้ในแพ็คเกตนะ ซึ่งจะไม่เหมือนทางฝั่งของ Smartphone ของ Lenovo


แรกจับกับเจ้า Lenovo PHAB Plus ต้องบอกเลยว่าต้องร้อง โอ้ววววววว พระเจ้า!! ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ในความคิดแรกของผมเลย ที่มองว่าแฟบเล็ตมันต้องหนักแน่ๆ ถึงแน่นอนที่สุด เพราะเท่าที่เคยจับๆ มาก็จะหนักเอาเรื่องอยู่นะ แต่พอมาจับเจ้า Lenovo PHAB Plus ทำให้รู้สึกว่าเป็นแฟบเล็ตที่เบามาก เท่าที่ดูจากสเปคมาน้ำหนักก็จะประมาณ 200 กรัมประมาณนั้นครับ หรือว่าผมจะเวอร์ไป ก็ไม่ใช่มั้ง 5555 แต่ความรู้สึกมันเบาจริงๆ ครับ สามารถถือใช้งานมือเดียวได้สบายอยู่ กับตัวเครื่องที่มีขนาดหน้าจอ 6.8 นิ้ว


ในเรื่องการพกพาสำหรับคนที่ไม่เคยใช้แท็บเล็ตหรือว่าพวกแฟบเล็ตมาก่อน ก็อาจจะพกพาลำบากหน่อย เรื่องการใส่กระเป๋ากางเกงนี่เลิกคิดไปได้เลยครับ ถ้าใส่ได้อาจจะเต็มกระเป๋าเลยก็เป็นได้ อาจจะต้องหากระเป๋าใส่ให้มันสะหน่อย หรือใครมีกระเป๋าอยู่แล้วก็หมดปัญหาเรื่องนี้ไปได้ครับ แต่มันก็ไม่ได้พกพาลำบากมากนะ ด้วยขนาดตัวเครื่องที่มีหน้าจอ 6.8 นิ้ว ถ้าจับแล้วมันก็จะพอดีกับมือเลย ผมเป็นคนมือถืก็ยังจับได้อย่างถนัดอยู่


ในเรื่องของการออกแบบ Lenovo PHAB Plus ก็ได้ออกแบบมาได้อย่างเรียบหรูลงตัว ถ้าใครมองผ่านๆแล้ว อาจจะเหมือนกับมือถือแบรนด์นึงอยู่ เหมือนกับเป็นร่างขยายเลยประมาณนั้นล่ะ เอาเป็นว่าทำมาได้ดีเกินคาดครับ วัสดุตัวเครื่องก็ถือว่าเยี่ยมใช้ได้เลย ใช้วัสดุหลักเป็นอลูมิเนียม ตัวเครื่องจะเป็นแบบ Unibody ที่ไม่สามารถอดฝาหลังออกได้ เรื่องงานประกอบก็เนี๊ยบเลย เก็บรายละเอียดได้ดีเลย


ด้านหน้าของตัวเครื่องก็จะไม่มีปุ่มสัมผัสใดๆ โดยพวกปุ่ม โฮม, ย้อนกลับ, เมนู จะถูกเข้าไปอยู่ในส่วนหน้าจอแทน ทำให้ด้านนี่ดูเรียบๆเลย รายละเอียข้างบนก็จะเป็นลำโพงสำหรับการสนทนา ถัดมาจะเป็นกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และสุดท้ายเซ็นเซอร์ สำหรับ Notification light จะถูกซ่อนไว้ในลำโพงสนทนานั่นแหละครับ ส่วนหน้าจอก็จะมีขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียดระดับ FullHD (1920 x 1080 พิกเซล) มุมมองค่อนข้างกว้างพอสมควร


พลิกมาดูด้านหลังกันต่อ ก็อย่างที่บอกไปข้างต้นครับ ด้วยตัวเครื่องที่เป็นแบบ Unibody วัสดุอลูมิเนียม ทำให้ดูแข็งแรงใช้ได้เลย ผิวสัมผัสก็จากด้านๆครับ อาจจะลื่นสักเล็กน้อย แต่ด้วยลักษณะของขอบที่มนๆก็ทำให้ช่วยลดการลื่นได้ดีหน่อย เรื่องของการทิ้งรอยนิ้วมือก็ไม่ค่อยมีให้รบกวนใจเท่าไหร่ รายละเอียดต่างๆด้านหลังก็จะประกอบด้วย กล้องหลักที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ข้างๆก็จะเป็นแฟลช LED Dual Tone และสุดท้ายก็จะเป็นลำโพง ระบบเสียง Dolby Atmos


มาต่อด้วยรายละเอียดรอบๆขอบเครื่องครับ เริ่มจากขอบซ้าย จะเป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด ถ้าจะใส่ซิมก็จะต้องใช้เข็มจิ้มซิมที่แถมมาให้ในกล่องล่ะครับ จิ้มเข้าไป ถอดใส่ซิมก็จะเด้งออกมา สามารถใส่ได้ 2 ซิมการ์ด แบบนาโนซิมและไมโครซิม ขอบด้านซ้ายก็จะเป็นปุ่ม Power และปุ่ม เพิ่ม/ลดเสียง


และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรจะอยู่ด้านล่าง

Software


ในส่วน Software ของ Lenovo PHAB Plus ก็จะเป็นระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop ครอบด้วย Vibe UI ซึ่งจะไม่เหมือนทางฝั่งของ Smart Phone  สำหรับคนที่ไม่เคยใช้แอนดรอยด์มาก่อนก็ใช้งานได้ไม่ยากครับ หรือใครที่เคยๆเล่นแอนดรอยด์มาก่อนแล้วก็สบายเลย  ดีไซน์ดูแล้วสะอาดตา ในส่วนของแอพก็จะถูกไปรวมไว้อยู่ใน App Drawer หรือหน้ารวมแอพพลิเคชั่น

จุดนี้อาจจะยุ่งยากไปสักนิด แต่ถ้ามีแอพที่จำเป็นจริงๆเราก็สามารถสร้าง Shortcut ออกมาที่หน้าจอหลักได้อยู่ เรื่องความลื่นของตัว Software ก็ทำได้ดีเลย และสุดท้ายโดยเครื่องตัวนี้ที่มีความจุภายในให้มาแล้ว 32 GB จะเหลือให้ใช้งานประมาณ 23 GB เท่านั้น

ฟีเจอร์เด่นๆ ของเจ้า Lenovo PHAB Plus ก็มีอยู่เหมือนกันนะ


Screen shrink ที่จะทำให้การใช้งานด้วยมือเดียวได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยการวาดตัว C ลงบนจอ ขนาดหน้าจอโฮมสกีนก็จะปรับเล็กลงมา เราสามารถที่จะปรับให้เล็กหรือใหญ่ได้ตามความถนัดเลย หรือจะเอียงซ้ายเพื่อใช้กับมือซ้าย เอียงเครื่องไปทางขวาเพื่อใช้งานมือซ้าย ก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจนะ


ระบบเสียง Dolby Atmos Dolby Atmos หลายๆ คนก็คงจะคุ้นกับชื่อนี้ดีแล้วล่ะ เพราะก็เป็นระบบเสียงตัวใหม่ ที่ใช้กันในโรงภาพยนต์ ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก Dolby Surround 7.1 มันก็เป็นเรื่องที่ดีเลย ที่ได้นำเทคโนโลยีแบบนี้เข้ามาใช้กับตัวแฟลเล็ต ทำให้อรรถรสในการฟังเพลง หรือจะดูหนังได้อารมณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถปรับแต่งเสียงได้จากแอพ Dolby Atmos  จะมีให้เลือก 3 โหมดด้วยกันคือ โหมดภาพยนต์, โหมดเพลง และโหมดเกม หรือจะปรับ eqealizer ด้วยตนเองก็ได้เช่นกัน


Floating Shortcut คือเปิดใช้งานเมนูลัด การตั้งค่าหรือแอพที่จำเป็นๆก็จะมารวมอยู่ในนี้ล่ะ ทำให้การเรียกใช้งานได้สะดวกเลย

Double to Wake คือการจิ้มดัลเบิ้ลสองครั้งไปที่หน้าจอเพื่อทำการปลุก หรือทำให้หน้าจอเปิดจากโหมดสลีปนั่นเอง

Camera

เข้ามาดูเรื่องกล้องกันต่อครับ ด้วยกล้องของเจ้าตัว Lenovo PHAB Plus กล้องหลักจะมีความละเอียดที่ 13 ล้านพิกเซล ซึ่งที่ได้จากการทดลองถ่ายภาพแล้ว ยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ คุณภาพที่ออกมายังทำได้ไม่ดี ถ้าเทียบแล้วยังพอๆกับพวกแท็บเล็ตทั่วๆไป ในการโฟกัสภาพจะช้าไปหน่อย

หากใครที่เคยใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตตัวท็อปๆมาแล้ว อาจจะขัดๆกับความรู้สึก ในเรื่องของการปรับแต่งก็เป็นไปตามมาตรฐานของทาง Lenovo ที่จะมีเอฟเฟคต่างๆให้เลือก หรือโหมดการใช้งานที่เลือกได้ตามต้องการ แต่หลักๆแล้วผมก็จะใช้แต่โหมดออโต้นั่นแหละครับ เพราะมันก็สะดวกสุดๆแล้ว

การถ่ายภาพตอนกลางคืน ก็อาจจะต้องถือให้นิ่งหน่อยแหละเพราะด้วยชัตเตอร์ที่ช้า และตัวเครื่องที่ขนาดใหญ่ อาจจะทำให้มือสั่นเอาได้ แต่ก็แลกมากับการได้แฟลช LED Duo Tone ก็ช่วยให้การถ่ายภาพในตอนกลางคืนดีขึ้นมาหน่อย สำหรับกล้องหน้าจะมีความละเอียดที่ 5 ล้านพิกเซล มีโหมด Beayty ด้วย ก็พอที่จะเอาไว้เซลฟี่ได้อยู่ล่ะ

ด้านล่างนี้ก็จะเป็นภาพที่ถ่ายจากกล้อง ตัว Lenovo PHAB Plus

ก็จบกันไปแล้วล่ะครับสำหรับรีวิวกับเจ้า Lenovo PHAB Plus ก็ต้องบอกเลยว่าคุ้มเกินราคาจริงๆ หาเอาตัวที่มาเทียบมาชนในช่วงนี้ได้ยากกันเลยทีเดียว เพราะสเปคก็ได้จัดเต็ม เลือกใช้ซีพียูอย่าง Snapdragon 615 ซึ่งเป็นซีพียูที่มีความแรงในระดับนึงไม่ว่าจะกลุ่มสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือจะเป็นแฟบเล็ต ในระดับกลางๆก็เลือกมาใช้งานกัน  ผสมผสานกับแรม 2GB กับ Android 5.0 ได้อย่างลงตัว
แล้วที่ขาดไปไม่ได้เลยคือการเชื่อมต่อผ่านระบบ 4G LTE ในยุคนี้ก็ต้องเทคโนโลยีนี้แหละ ที่จะทำให้การท่องโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ประเทศไทยจะยังไม่เข้าสู้ยุค 4G LET อย่างเป็นทางการ แต่ก็มีไว้ก่อนก็ดีครับ เผื่ออนาคตเปิดใช้เต็มรูปแบบแล้ว ก็สบายเลยล่ะทีนี้

ในเรื่องของการออกแบบก็เป็นจุดที่น่าสนใจอีกจุดนึงของ Lenovo PHAB Plus ด้วยรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับนิยม สำหรับผมประทับใจมากเลยล่ะ ยิ่งสีทองนี่นะ ชอบๆ ตอนนี้สีทองมาแรงจริงๆ ล่ะครับ อันนี้ก็เป็นความชอบส่วนบุคคล บางคนก็อาจจะชอบสีอื่น ซึ่งก็มีมาให้เลือกหลากหลายสี อย่างสีดำก็สวยอยู่ครับ

และสุดท้ายหากใครที่กำลังมองหาแฟบเล็ตดีๆ สักเครื่องตัวนี้ก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกสำหรับคุณ ที่จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น จะเอาไว้ใช้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือจะยกมาโทร ก็ไม่เอาท์ เอาเป็นว่าก็ลองไปหาเครื่องเล่นตาม Shop กันดูก่อนละกันครับ วันนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ ขอบคุณสำหรับการติดตามและอ่านมาจนจบครับ และผมจะขอสรุปขอดีและข้อสังเกตไว้ท้ายสุดละกันครับ

ข้อดี
-ได้สเปคที่ดีเกินราคา ไม่ว่าจะเป็นซีพียู Snapdragon 615 หรือจะเป็นแรมที่ให้มาถึง 2GB
– หน้าจอคมชัดระดับ FullHD ทำให้เล่นเกมหรือดูหนังก็ชัดเต็มตา
– รองรับการใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด พร้อมทั้งการเชื่อมต่อผ่านครือข่าย 3G/4G LTE ทุกเครือข่าย
– ระบบเสียง Dolby Atmos

ข้อสังเกต
– สามารถเพิ่ม SD Card ได้สูงสุด 64GB ก็จริง แต่จะต้องแลกด้วยการใช้งานซิมการ์ดได้เพียงซิมเดียว เพราะอีกช่องนึงจะถูกแทนที่ด้วย SD Card ที่ใส่เพิ่มเข้าไป
– ในกล่องไม่มีหูฟังมาให้ ถ้าหากต้องการที่จะใช้งานก็ต้องหามาเองล่ะ
– กล้องที่ยังไม่คมชัดเท่าไหร่ อาจจะเป็นด้วยตัวซอฟแวร์หรือตัวของเซ็นเซอร์ และการโฟกัสยังช้าไปหน่อย

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ กะล๊อบก๊อบ จาก www.pantip.com
Previous
Next Post »
Thanks for your comment